ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหานี้ได้เนื่องจากคุกกี้ถูกปิดใช้งาน หากต้องการเข้าถึงเนื้อหานี้ จำเป็นต้องเปิดใช้งานคุกกี้ โปรดคลิกปุ่มด้านล่าง เปิดใช้งานคุกกี้ แล้วรีเฟรชหน้านี้ คุณสามารถจัดการการตั้งค่าคุกกี้ได้ตลอดเวลาโดยใช้เครื่องมือตั้งค่าคุกกี้
กล้าเปื้อนเพื่อเปลี่ยน ออกไปเที่ยว พร้อมเปิดประสบการณ์เรียนรู้การปลูกข้าว และกิจกรรมต่างๆของชาวนา เข้าใจและต่อยอดความยั่งยืนของชุมชนเกษตรกร
เปื้อนเพื่อเปลี่ยนมุมมองการบริโภคข้าว ว่ากว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดนั้นต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง
เรียนรู้การเป็นอยู่ของชาวนา เพื่อเข้าใจวิถีชีวิตของเกษตรกรเกษตรกรที่คอยดูแลปากท้องของคนไทยมานาน
ลงมือปลูกข้าวด้วยตัวเอง ตั้งแต่การตกกล้า ปักดำ ไปจนถึงหลังเก็บเกี่ยว รวมไปถึงกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเกษตรกร
นอกจาก ‘ข้าว’ จะเป็นอาหารหลักของคนไทย และอีกหลายประเทศในเอเชีย ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่เป็นรายได้หลักของสินค้าส่งออกในหมวดเกษตรของประเทศไทย โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการส่งออกข้าวมากถึง 8.76 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าที่สูงถึง 178,136 ล้านบาท ยึดอันดับสองของประเทศที่ส่งออกข้าวโลก
จึงไม่น่าแปลกใจที่พื้นที่ทำการเกษตรของไทยส่วนใหญ่มักเป็นนาข้าวที่มีการขยับขยายให้เพียงพอต่อความต้องการ และแม้ว่าข้าวจะสามารถเจริญเติบโตได้ในเกือบทุกที่ แต่การปลูกข้าวที่ต้องการผลผลิตที่ดีนั้นมีขั้นตอนมากมาย ตั้งแต่กระบวนการก่อนปลูกอย่างการเตรียมดิน ตกกล้า ปักดำ ไปจนถึงหลังเก็บเกี่ยว ที่ต้องนำข้าวเหล่านั้นมาหวด ฝัด ตำ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่สวยงาม ก่อนส่งต่อไปจำหน่ายและเข้าสู่ขั้นตอนการทำอาหาร
วิธีการเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและความชำนาญในการลงมือทำ ซึ่งแน่นอนว่าการเรียนรู้ชีวิตเกษตรกรของไทยคงทำได้ยากหากเป็นพื้นที่ในเมือง ดังนั้นการพาตัวเองและเด็ก ๆ ไปเที่ยวเปิดประสบการณ์เปื้อน คลุกคลีสารพันเรื่องข้าวที่ห้องเรียนธรรมชาติ ณ บ้านครูธานี จังหวัดปทุมธานี เพื่อทำความเข้าใจและเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของชาวบ้านผู้คลุกคลีกับข้าวไทยมานาน ก็คงเป็นการเปิดโลกของข้าวไทยที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน
มากไปกว่าการลงมือเรื่องข้าวแล้ว ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้ได้ใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการขี่ควาย พายเรือ หรือกระทั่งเก็บผักมาทำอาหาร และแม้ว่ากิจกรรมเหล่านี้อาจต้องมีการเลอะเทอะเปรอะเปื้อนกันบ้าง แต่หากเทียบกับความรู้และประสบการณ์ดีๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสสัมผัสบ่อยนัก ก็ถือว่าเป็นการเลอะที่คุ้มค่า ทั้งยังช่วยเปลี่ยนมุมมองเรื่องของข้าวให้มากไปกว่าการเป็นวัตถุดิบเม็ดเรียวยาวเรียงตัวสวยบนจานอาหาร และส่งเสริมให้คนทุกเพศทุกวัยเข้าใจวิถีชีวิตของชาวนา ที่เริ่มกลายเป็นอาชีพที่หาคนทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย และเมื่อเปรอะเปื้อนแล้ว อย่าลืมใช้ Protex เป็นตัวช่วยในการทำความสะอาด ช่วยลดแบคทีเรีย ปกป้องผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เตรียมตัวให้พร้อมกล้าออกไปเปื้อนได้อีกอย่างเต็มที
อ้างอิง:
ประสบการณ์จากผู้ได้ลองเปื้อนจริง
เด็กๆ สนุกกับกิจกรรมมากค่ะ ทั้งการเรียนรู้และได้เล่นสนุกไปพร้อมๆ กัน คุณครูให้ความใส่ใจและดูแลเด็กๆ อย่างเต็มที่ในทุกๆ ขั้นตอน ได้เลอะกันเต็มที่ แต่ก็เปิดประสบการณ์ใหม่จริง ๆ ค่ะ
ดีใจที่มีกิจกรรมแบบนี้ให้ได้พาลูกหลานมาใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้ลงมือปลูกข้าวเอง เขาจะได้รู้ว่ากว่าจะได้ข้าวแต่ละจานนั้นลำบากแค่ไหนครับ
ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดีๆ ที่ปลูกฝังวัฒนธรรมอันดีงามของไทยให้กับคนรุ่นใหม่และสอนให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักวิถีชีวิตของชาวนาที่ปลูกข้าวให้เราได้กิน
ที่ตั้ง : บ้านครูธานี ตำบลระแหง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี
วัน-เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09.30 - 17.00 น.
โทรศัพท์ : 08 5930 4216, 08 1308 1918
Facebook : บ้านครูธานี
ย้อมผ้ามูลควายที่สกลนคร
เปื้อนเพื่อฟื้นของเสียจากปศุสัตว์กับโพรเทคส์
ปั้นอิฐมอญที่อยุธยา
เปื้อนเพื่อเข้าใจวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยกับโพรเทคส์