เทคนิคอาบน้ำให้สะอาดหมดจดจาก PM 2.5 ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้!

รู้ไหมว่า ฝุ่น PM 2.5 นอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนเรา แล้วยังทำร้ายผิวพรรณด้วยนะคะ ยิ่งในช่วงที่ค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน นอกจากจะต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย การดูแลผิวกายให้สะอาดหมดจดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันค่ะ แต่ใช่ว่าจะเลือกสบู่หรือครีมอาบน้ำสูตรไหนก็ได้ เราต้องเลือกที่มีส่วนผสมช่วยขจัด PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพรเทคส์ มีทิปส์ง่าย ๆ ในการอาบน้ำให้ผิวสะอาดปราศจากฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างล้ำลึก ถึงเวลาแล้วที่เราจะเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ตอบโจทย์สุขภาพผิวได้อย่างเพอร์เฟ็กต์!

อาบน้ำทำความสะอาดฝุ่น PM 2.5 ได้จริงหรือ? 

หลายคนอาจสงสัยว่าแค่ฝุ่นเล็ก ๆ จะส่งผลกระทบต่อผิวได้มากขนาดนั้นเลยเหรอ? คำตอบคือ "ใช่" ค่ะ ด้วยอนุภาคเล็กจิ๋วขนาด 2.5 ไมครอนจึงสามารถแทรกซึมผ่านรูขุมขนเข้าสู่ชั้นผิวหนังและทำลายเซลล์ผิวได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดอาการคัน ระคายเคืองผิว ผิวแพ้ง่าย ผิวแพ้ฝุ่น PM 2.5 โรคผิวหนัง และปัญหาผิวอื่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ฝุ่น PM 2.5 ยังมีสารพิษและแบคทีเรียปะปนอยู่ด้วย หากเราไม่ใส่ใจในการอาบน้ำจะทำให้สารพิษและแบคทีเรียสะสมบนผิว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพผิวในระยะยาวอีกด้วย 

การอาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่า สามารถขจัดฝุ่น PM 2.5 ตกค้างได้เห็นผลจริง นอกจากจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างดี แล้วยังช่วยลดการระคายเคืองและป้องกันปัญหาผิวหนังอื่น ๆ อีกด้วย 

2 ส่วนผสมนางเอกในเจลอาบน้ำ เอาอยู่ทุกปัญหาฝุ่น PM2.5!

การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสำคัญในการอาบน้ำทำความสะอาดฝุ่น PM 2.5 ค่ะ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ปราศจากส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง เช่น SLS, พาราเบน และน้ำหอม ฯลฯ เพราะสารเหล่านี้จะทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และผิวแพ้ง่าย ที่สำคัญควรเน้นที่มีสารสกัดสำคัญจากธรรมชาติ ได้แก่

• อาไซอิ (Acai): ผลไม้ขนาดเล็กในตระกูลเบอร์รี ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิว ลดการทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินจึงช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและลดการเกิดริ้วรอย มีสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดการระคายเคืองและอาการแดงของผิว ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้น ป้องกันการสูญเสียน้ำ และลดการสร้างเม็ดสีผิวที่มากเกินไป จึงทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

• โรสฮิปออยล์ (Rosehip Oil): โรสฮิปออยล์อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณค่า ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ลดการระคายเคืองและอาการแดงของผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็นต่าง ๆ ให้จางลง และมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิว

ผลไม้ทั้งสองชนิดนี้ นอกจากจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นพิษ PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วยังผ่านการรับรองโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่าช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรงขึ้น พร้อมบำรุงและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระได้อย่างดีเยี่ยม 

8 ขั้นตอนการอาบน้ำให้สะอาดปราศจากฝุ่น PM2.5  

เมื่อเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้แล้ว ขั้นตอนการอาบน้ำก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ เพราะหลายคนมักจะอาบน้ำตามความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน เรามีเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยทำความสะอาดผิวจากฝุ่น PM2.5 ได้อย่างหมดจดมาฝากค่ะ 

1. อาบน้ำทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน: ควรรีบอาบน้ำทำความสะอาดผิวและเส้นผมทันทีที่กลับถึงบ้าน เพื่อชำระฝุ่น PM2.5 รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากร่างกายโดยเร็วที่สุดค่ะ แล้วยังช่วยป้องกันสารพิษต่าง ๆ ที่อาจปนเปื้อนมากับฝุ่นซึมเข้าสู่รูขุมขนและส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

2. ล้างหน้าให้สะอาดก่อนอาบน้ำ: ควรล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่สามารถขจัดฝุ่น PM2.5 ได้อย่างหมดจด เน้นบริเวณที่สัมผัสกับฝุ่นมากเป็นพิเศษ เช่น หน้าผาก จมูก และแก้ม

3. อาบน้ำด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ: หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งกร้านและสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำอุ่นเล็กน้อยจะดีกว่า 

4. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน: ควรเลือกใช้สบู่หรือเจลอาบน้ำ ที่มีสูตรอ่อนโยนต่อผิว ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่รุนแรง หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เน้นที่มีส่วนผสมของอาไซอิและโรสฮิปออยล์ แนะนำ เจลอาบน้ำ โพรเทคส์ ดีพ คลีน สูตรบลูมมิ่ง โรสฮิป และ เจลอาบน้ำ โพรเทคส์ ดีพ คลีน สูตรจอยลี่ อาไซอิ อาบน้ำสะอาดพร้อมบำรุงผิวให้สุขภาพดีอยู่เสมอ

5. ฟอกสบู่ให้ทั่ว และไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป: ฟอกสบู่หรือเจลอาบน้ำให้ทั่วร่างกาย เน้นบริเวณที่สัมผัสกับฝุ่นโดยตรง เช่น แขน ขา ผิวหน้า และลำคอ ไม่ควรอาบน้ำนานเกินไป เพราะจะทำให้ผิวแห้งและไวต่อการระคายเคืองได้

6. ล้างน้ำออกให้สะอาด: ล้างสบู่หรือเจลอาบน้ำให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะบริเวณซอกหลืบต่าง ๆ ของร่างกาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน 

7. เช็ดตัวให้แห้ง: เช็ดตัวให้แห้งด้วยผ้าขนหนูที่สะอาดและนุ่มละมุน ไม่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ จากผ้าขนหนูที่เนื้อหยาบกระด้างจนเกินไป 

8. บำรุงผิวกาย: ทาครีมบำรุงผิวกายเพิ่มความชุ่มชื้นทุกครั้งหลังอาบน้ำ เพิ่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้งเสียและลดความไวต่อการระคายเคือง พร้อมบำรุงผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ 

ที่สำคัญควรอาบน้ำทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน เพื่อขจัดฝุ่น PM2.5 และสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวได้อย่างล้ำลึก ควบคู่กับการเลือกใช้เจลอาบน้ำที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ผิวสะอาด สุขภาพดี และปราศจากฝุ่นพิษที่เป็นอันตราย นอกจากการอาบน้ำทำความสะอาดผิวกายแล้ว ควรดูแลสุขภาพผิวด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพผิวกันทุกวันนะคะ