รู้หรือไม่ ฝุ่น PM2.5 มีแบคทีเรียซ่อนอยู่ ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง

หญิงสาวในชุดทำงานที่ยืนอยู่บนถนน ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น pm 2.5

ภัยเงียบใกล้ตัวที่หลายคนไม่ควรมองข้าม “ฝุ่น PM2.5” (Particulate Matter) เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กมากๆ จนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและเล็กกว่าเส้นผมของเราถึง 20 เท่า จึงสามารถผ่านเข้าไปในปอดและเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทั้งยังแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังส่งผลให้ผิวระคายเคืองอีกด้วย นอกจากนี้ งานวิจัยหลายชิ้นระบุด้วยว่า PM2.5 อาจทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตมากขึ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพและผิวพรรณของคนเรา มาทำความรู้จักกับ PM2.5 พร้อมวิธีปกป้องดูแลตัวเองและคนที่คุณรักให้ห่างไกลจากฝุ่นร้ายกันดีกว่าค่ะ

ฝุ่น PM2.5: ผู้ร้ายคร่าชีวิต ที่คุณอาจไม่เคยรู้! 

คุณอาจจะสังเกตเห็นว่า ท้องฟ้ายามเช้าของฤดูหนาวไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน เนื่องจากมีหมอกหนาปกคลุมไปทั่วเมือง ซึ่งหลายคนมักจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วฝุ่นพิษร้ายแรงกำลังทำลายสุขภาพของเราอย่างช้าๆ ด้วยขนาดที่เล็กจิ๋วจนสามารถล่องลอยอยู่ในอากาศได้นาน และเล็กพอที่จะแทรกซึมผ่านขนจมูกเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้อย่างง่ายดาย 

PM2.5 เกิดจากมลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากรถยนต์ เชื้อเพลิงในการผลิตพลังงาน โรงงานอุตสาหกรรม การเผาขยะ เผาพืชผลทางการเกษตร ไฟป่า รวมถึงการระเบิดของภูเขาไฟ ความน่ากลัวคือ ฝุ่น PM2.5 ไม่ได้มาแบบตัวเปล่าๆ แต่ยังนำพาสารพิษและโลหะหนักมาด้วย เช่น คาร์บอนมอนออกไซด์, ไนโตรเจนไดออกไซด์, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์, ปรอท, แคดเมียม และสารก่อมะเร็งต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราอย่างมาก และอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย

เมื่อเราสูดดม PM2.5 เข้าไปนานๆ สารพิษเหล่านี้จะสะสมในปอดก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง ปอดอักเสบ และมะเร็งปอด นอกจากนี้ PM2.5 ยังสามารถเข้าสู่กระเลือดจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคผิวหนังอักเสบ และเยื่อบุตาอักเสบได้อีกด้วย ยิ่งฝุ่นสะสมในร่างก่ายมากเท่าไหร่ก็อาจจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิต น่ากลัวมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ!

ฝุ่น PM2.5: ศัตรูตัวร้าย ทำลายสุขภาพผิวให้อ่อนแอ!

คุณอาจจะคิดว่า ฝุ่น PM2.5 เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือดเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า ฝุ่น PM2.5 ยังส่งผลเสียต่อผิวพรรณของเราอีกด้วย! อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า PM2.5 มีขนาดเล็กจิ๋วมากๆ จนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แล้วยังสามารถแทรกซึมผ่านรูขุมขนและตรงเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังของเรายืดหยุ่น แข็งแรง และเปล่งปลั่ง จึงส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหย่อนคล้อย และผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ ฝุ่น PM2.5 เป็นตัวการที่ทำให้คุณดูแก่ก่อนวัยได้ด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น PM2.5 ยังกระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบของเซลล์ผิวหนัง ทำให้เกิดผื่นคันและผิวหนังอักเสบได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคผิวหนังเป็นทุน เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่นผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงิน สิว ฯลฯ ฝุ่น PM2.5 จะกระตุ้นให้อาการรุนแรงมากขึ้น ทั้งยังเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ ผื่นคัน ผิวแพ้ง่าย และโรคผิวหนังต่างๆ เนื่องจาก ฝุ่น PM2.5 เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย เชื้อรา และสารพิษต่างๆ เมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะทำให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ และติดเชื้อได้ง่าย

ปกป้องผิวสู้ฝุ่นร้าย! วิธีดูแลผิวกายให้ปราศจาก PM2.5 และแบคทีเรีย

แน่นอนว่า เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 ได้ เพราะมันล่องลอยอยู่รอบๆ ตัวเรา สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ การป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM2.5 และดูแลผิวพรรณของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพียงทำตามเคล็ดลับดีๆ ที่เรานำมาฝากกัน ดังนี้ค่ะ

  1. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน: ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หน้ากาก N95 เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นพิษเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราได้

  2. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้าน ที่ทำงาน และรถยนต์: เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคต่างๆ จะช่วยมอบอากาศบริสุทธิ์ให้คุณและครอบครัวห่างไกลจากฝุ่นพิษและสิ่งสกปรกในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญควรปิดประตู-หน้าต่างให้มิดชิดในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงกว่าที่กำหนด

  3. ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี: หลังจากกลับบ้านควรอาบน้ำทำความสะอาดผิวกายทันที เพื่อขจัดฝุ่น PM 2.5 และสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากผิวได้อย่างล้ำลึก เราแนะนำ สบู่ก้อนโพรเทคส์ สูตร Deep Clean ผสานพลังสารสกัดจากโรสฮิป  ที่มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิแด้นท์ ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ช่วยขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองต่างๆ และความมันสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว พร้อมลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ให้ผิวสะอาดสุขภาพดีอยู่เสมอ

  4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักสดและผลไม้ตามฤดูกาล โดยเฉพาะมะเขือเทศ ขมิ้น ถั่วต่างๆ ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรงอีกด้วย

  5. ดื่มน้ำเยอะๆ: น้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และขับสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างดี

  6. พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ รวมถึงผิวหนังของเรา

  7. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่นละออง: ก่อนออกจากบ้านควรตรวจวัดระดับ PM2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูง ควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนานๆ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

  8. ทำความสะอาดบ้านบ่อยขึ้น: ในช่วงที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานที่กำหนด ควรทำความสะอาดบ้าน ซักเสื้อผ้า หรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมตัวของฝุ่นพิษ 

  9. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: หากมีปัญหาผิวหนัง เช่น สิว ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ หรือโรคผิวหนังต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

เห็นไหมว่า ฝุ่น PM 2.5 เป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่เราไม่ควรมองข้าม รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยการสวมหน้ากากอนามัย N95 หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูง และอาบน้ำทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน เพื่อผิวสวยสุขภาพดีห่างไกลฝุ่น PM 2.5 ที่สำคัญควรเลือกสบู่ก้อนโพรเทคส์ สูตรโปรคลีน เพื่อช่วยทำความสะอาดผิวกายได้อย่างล้ำลึกนะคะ

 

ติดตามเราได้ทาง: