4 เทคนิคผิวสวยสู้ฝุ่น PM2.5 อวดผิวสะอาดใส ไร้กลิ่นกายตลอดวัน!

หลายคนอาจจะกังวลเรื่องรังสียูวีในแสงแดดทำให้หมองคล้ำ มีริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ จนลืมไปว่า PM2.5 ก็ทำร้ายผิวของเราได้น่ากลัวไม่แพ้กันค่ะ หากเราเริ่มมีอาการคัน ระคายเคืองผิว ผิวแพ้ง่าย หรือผิวอักเสบจากมลภาวะ อาจเกิดจากฝุ่นละอองทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ ฝุ่น PM2.5 ยังนำไปสู่การสะสมของแบคทีเรียตัวร้ายที่แทรกซึมจากผิวเข้าสู่ร่างกายได้ และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา อีกทั้งแบคทีเรียยังทำให้มีกลิ่นกายที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากอยู่ใกล้ ถ้าไม่อยากมีผิวแพ้ฝุ่น PM2.5 อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก ๆ อย่างวิธีทำความสะอาดผิวจากฝุ่น เพื่อช่วยป้องกันการระคายเคืองผิว ที่อาจทำให้เรามีผิวหมองคล้ำ มีกลิ่นกาย และดูแก่กว่าวัยโดยไม่รู้ตัวค่ะ

รู้ยัง! ฝุ่น PM2.5 ทำร้ายผิวของเราได้น่ากลัวกว่าที่คิด

เมื่อไม่นานมานี้ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่หันมาโฟกัสเรื่องของ “ผลกระทบจากฝุ่นละอองในอากาศ (PM) ต่อผิวพรรณ” ในกลุ่มคนที่สุขภาพแข็งแรงแต่มีอาการแพ้ต่าง ๆ ทางผิวหนังและได้รับความสนใจในวงกว้าง ในเรื่องนี้ NIH (National Library of Medicine) เปิดเผยถึงผลกระทบโดยตรงจากฝุ่น PM2.5 (Particulate Matter) ที่ส่งผลให้ผิวแดงและผิวหมองคล้ำมากขึ้นในวันที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงเกินมาตรฐานที่กำหนด อีกทั้งความเข้มข้นของ PM ที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้เกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติทำงานผิดปกติ ใบหน้ามีรอยแดงมากขึ้นและสีผิวไม่สม่ำเสมอ แม้แต่คนที่มีสุขภาพผิวแข็งแรงก็ตาม

ด้วยอนุภาคขนาดเล็กจิ๋วของ PM 2.5 จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย แล้วยังนำพาแบคทีเรียและโลหะหนักต่างๆ เข้าไปสะสมในรูขุมขน ทำให้เกิดการอุดตันที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ผิวหมองคล้ำ และกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง อาการคันยุบยิบ และมีกลิ่นกาย ซ้ำร้ายฝุ่น PM 2.5 ยังสามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและมีริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น การทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการป้องกันฝุ่น PM2.5 ทำร้ายผิวของเราค่ะ

4 เทคนิคดูแลผิวกายให้สะอาดล้ำลึก อวดผิวสวยสู้ฝุ่นได้อย่างมั่นใจ!

แล้วเราจะทำความสะอาดผิวจากฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างไรบ้าง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณแนะนำ 4 เทคนิคง่าย ๆ ในการทำความสะอาดผิวกายได้อย่างล้ำลึก พร้อมให้คุณอวดผิวสวยกระจ่างใสได้อย่างมั่นใจ แม้เราจะลด PM2.5 ในมลภาวะไม่ได้ แต่เราก็ปกป้องผิวของเราได้ด้วยตัวเองค่ะ

1. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน แต่โหดกับฝุ่น PM2.5 

หัวใจสำคัญของการมีผิวสวยสุขภาพดี และผิวสู้ฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมั่นใจ ควรเริ่มต้นจากเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายสูตรที่อ่อนโยน เพื่อขจัดสารมลพิษโดยไม่ทำลายน้ำมันตามธรรมชาติของผิว หรือ "ซีบัม” (sebum) ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรงและชุ่มชื้น ควรอาบน้ำทันทีเมื่อกลับถึงบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ PM 2.5 เกาะติดผิวเป็นเวลานาน และควรเลือกใช้เจลอาบน้ำที่เหมาะกับสภาพผิว โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ฝุ่น PM 2.5 ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนเป็นพิเศษ

**Tips: อาบน้ำพร้อมบำรุงผิวกายในขั้นตอนเดียวด้วย เจลอาบน้ำ โพรเทคส์ ดีพ คลีน สูตรบลูมมิ่ง โรสฮิป และ เจลอาบน้ำ โพรเทคส์ ดีพ คลีน สูตรจอยลี่ อาไซอิ ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 93% ปราศจากพาราเบน ซิลิโคน และพาทาเลต พร้อมสารสกัดจาก “โรสฮิป” และ “อาไซอิ” ที่มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิแด้นท์ ช่วยทำความสะอาดล้ำลึก ปกป้องผิวจากมลภาวะ แบคทีเรีย และ ฝุ่น PM 2.5 พร้อมกลิ่นหอมละมุนจากดอกไม้ยาวนานตลอดวัน 

2. เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง

ทุกครั้งหลังทำความสะอาดผิวกายควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา เพื่อช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้สารมลพิษซึมผ่านเข้ามาได้ มองหามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเซราไมด์และกรดไฮยาลูโรนิก เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และลดโอกาสการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น อาการคัน ระคายเคืองผิว และผิวแพ้ง่าย ที่สำคัญอย่าลืมทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสมทุกครั้งก่อนออกจากบ้านนะคะ เพื่อป้องกันรังสียูวีในแสงแดด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวจากฝุ่น PM 2.5 ได้ง่ายขึ้น

3. หลีกเลี่ยงส่วนผสมอันตราย ทำร้ายผิวให้อ่อนแอ

ใครที่มีอาการผิวแห้ง ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวไวต่อการระคายเคือง หรือโรคผิวหนังต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว หรือครีมบำรุงผิวที่มีฤทธิ์รุนแรง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ พาราเบน พาทาเลต ซิลิโคน และน้ำหอมเข้มข้น ที่อาจทำให้ผิวไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม ยังแนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มี แอนตี้ออกซิแด้นท์ เพื่อช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากมลพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ปรับไลฟ์สไตล์ให้เฮลท์ตี้ เพื่อสุขภาพที่ดีอยู่เสมอ

นอกจากการดูแลตัวเองจากภายนอกจะสำคัญ แล้วการดูแลสุขภาพผิวให้แข็งแรงจากภายในก็สำคัญมากเช่นกันค่ะ ควรรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักและผลไม้สดตามฤดูกาล เพื่อต่อสู้กับอนุมูลอิสระจากภายในได้อย่างดีเยี่ยม ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพออย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 สูง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน และควรงดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีฝุ่นละอองหนาแน่น รวมถึงการใช้เครื่องฟอกอากาศเพื่อช่วยลดฝุ่นละอองและ PM2.5 ภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยให้ผิวของเราสุขภาพดีและผิวแข็งแรงอยู่เสมอ แล้วยังช่วยให้เรามีผิวสวยเปล่งประกายและกลิ่นกายหอมสดชื่นตลอดวัน พร้อมรับมือกับมลภาวะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ต้องเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 ทุกวันก็ไม่หวั่นค่ะ! 

อ้างอิง: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/34079186/