อาการคัน ระคายเคืองผิวจากฝุ่น PM2.5 ที่มาพร้อมกับแบคทีเรีย

 หญิงสาวกำลังทาครีมดูแลผิว ยิ้มอย่างอ่อนโยนขณะใช้มือสัมผัสแขนของเธอ

ในยุคที่ฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย เชื่อว่าหลายคนอาจเผชิญกับอาการคันและระคายเคืองผิวกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ที่น่ากังวลไปกว่านั้น คือฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่ยังพา “แบคทีเรียในฝุ่น PM 2.5” มาด้วย ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวของเราโดยตรง โพรเทคส์ จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีป้องกัน เพื่อให้เราสามารถดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เผยโฉมแบคทีเรียตัวร้ายในฝุ่น PM2.5 ทำร้ายสุขภาพ 

เคยสังเกตไหมคะว่า วันไหนที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน ผิวของเราจะเกิดอาการคันหรือแดงขึ้น เพราะฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กมากจนสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้อย่างง่ายดาย แล้วยังนำพาแบคทีเรียที่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังของเราได้ด้วย โดยแบคทีเรียที่มักจะปะปนมากับฝุ่น PM 2.5 ได้แก่

  • สแตปฟิโลคอกคัส (Staphylococcus): เป็นแบคทีเรียที่มีหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยที่แตกต่างกัน บางชนิดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น ฝี หนอง หรือผิวหนังอักเสบ ขณะที่บางชนิดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงกว่า เช่น ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือการติดเชื้อในกระแสเลือด

  • สเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus): แบคทีเรียแกรมบวกที่สามารถทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และปอดบวม

  • ไซยาโนแบคทีเรีย (Cyanobacteria): แม้โดยทั่วไปแล้วไซยาโนแบคทีเรียจะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่บางชนิดสามารถผลิตสารพิษ “ไซยาโนท็อกซิน” (cyanotoxins) ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ที่ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ผิวหนังแดง หรือมีผื่นขึ้นได้

นอกจากนี้ ยังมีแบคทีเรียอีกหลายชนิดที่แฝงตัวอยู่ในฝุ่น PM2.5 ซึ่งสามารถกระตุ้นการอักเสบของผิว ทำให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง หรือผื่นแพ้ฝุ่น PM 2.5 ยิ่งคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีปัญหาผิวเป็นทุน เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) หรือโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) จะทำให้อาการแย่ลงไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น PM2.5 ยังมีสารพิษปนเปื้อนอื่น ๆ เช่น โลหะหนักและสารเคมีที่เป็นอันตราย เมื่อสัมผัสกับผิวหนังเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมของสารพิษในชั้นผิว ตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ ผิวหนังเหี่ยวย่น และมีริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย

อาการคันจากฝุ่น PM 2.5 บอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพผิวของเรา

เมื่อผิวเริ่มมีอาการคัน หรือระคายเคืองจากฝุ่น PM 2.5 นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าผิวของเรากำลังเผชิญกับภาวะ “ผิวอ่อนแอ” หรือ “เกราะป้องกันผิวอ่อนแอ” เคยสังเกตไหมว่า ในวันที่อากาศเต็มไปด้วยฝุ่นมักจะรู้สึกว่าผิวแห้ง หรือมีอาการตึงผิดปกติ นั่นเป็นเพราะฝุ่น PM2.5 สามารถดูดซับความชุ่มชื้นออกจากผิว ทำให้เกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติของเราถูกทำลาย

นอกจากนี้ แบคทีเรียในฝุ่น PM 2.5 ยังทำให้เกิดการติดเชื้อบนผิวหนังได้ โดยเฉพาะบริเวณที่มีรอยแผล หรือผิวที่ถูกเกา การติดเชื้อเหล่านี้อาจลุกลามกลายเป็นปัญหาผิวที่ต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้น ดังนั้น หากคุณเริ่มรู้สึกคันหรือระคายเคืองผิวหลังจากอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูง อย่ามองข้ามสัญญาณเหล่านี้เด็ดขาด เพราะมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาผิวที่ใหญ่กว่าที่คุณคิด

4 วิธีง่าย ๆ ปกป้องผิวจากแบคทีเรียในฝุ่น PM 2.5 

แน่นอนว่า ปัญหามลภาวะและฝุ่น PM 2.5 อาจเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยง ถึงอย่างนั้น เราก็สามารถปกป้องและดูแลสุขภาพผิวจากแบคทีเรียตัวร้ายและโลหะหนักที่ปะปนอยู่ในฝุ่น PM 2.5 ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน นั่นคือ

  1. อาบน้ำให้สะอาดหมดจด: ควรอาบน้ำสระผมทันทีหลังกลับมาจากนอกบ้าน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่อ่อนโยนและสามารถกำจัดสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก เพื่อช่วยลดการสะสมของฝุ่นและแบคทีเรียในฝุ่น PM 2.5 ด้วยส่วนผสมจากโรสฮิปและอาไซอิ ที่มีคุณสมบัติแอนตี้ออกซิแด้นท์
    ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะเพื่อสุขภาพผิวดี เราแนะนำ เจลอาบน้ำ โพรเทคส์ ดีพ คลีน สูตรบลูมมิ่ง โรสฮิป และ เจลอาบน้ำ โพรเทคส์ ดีพ คลีน สูตรจอยลี่ อาไซอิ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย 99.9% รวมถึงฝุ่น PM2.5 ได้อย่างล้ำลึก

  2. เพิ่มเกราะป้องกันผิว: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผักสด ผลไม้ตามฤดูกาล และรับประทานวิตามินเสริม เช่น วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน วิตามิน D ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและควบคุมการอักเสบในร่างกาย วิตามิน E สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ภูมิคุ้มกัน วิตามิน A ช่วยในการสร้างเยื่อบุผิว ซึ่งเป็นด่านแรกในการป้องกันการติดเชื้อ เป็นต้น

  3. สวมหน้ากากอนามัย: หน้ากากอนามัยไม่ได้ช่วยแค่ป้องกันระบบทางเดินหายใจเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการสัมผัสของฝุ่น PM 2.5 กับผิวหน้าของเราได้อีกด้วย ควรเลือกหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นและฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว 

อาการคันและระคายเคืองผิวจากแบคทีเรียในฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะมันอาจนำไปสู่ปัญหาผิวที่รุนแรงกว่า ด้วยเคล็ดลับดี ๆ ที่ โพรเทคส์ นำมาฝากจะช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่แข็งแรงและช่วยปกป้องผิวจากแบคทีเรียในฝุ่น PM 2.5 เพราะสุขภาพผิวที่ดีเริ่มต้นจากความใส่ใจของเราค่ะ

ติดตามเราได้ทาง: