5 เทรนด์สุขภาพมาแรงแห่งปี ไลฟ์สไตล์สุขภาพดีไม่ต้องพึ่งยา!

หญิงที่กำลังนั่งขัดสมาธิสวมเสื้อกีฬา ในมือซ้ายถือชามสลัดและในมือขวาถือลูกเหล็กสีชมพูขนาดเล็ก

เชื่อว่า หลายคนอาจมีภาวะ Burnout จากการทำงาน หรือภาระหน้าที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ทำให้เราไม่มีเวลาใส่ใจดูแลตัวเองมากพอ ซึ่งจริง ๆ แล้วการดูแลสุขภาพอาจไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากอย่างที่คิดค่ะ แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจสู่ไลฟ์สไตล์สุขภาพดี 

โพรเทคส์ รวม 5 เทรนด์สุขภาพดีในปี 2025 ตั้งแต่อาหารที่ช่วยให้สุขภาพดี วิธีทำให้ใจสงบ การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพจิต และเทคนิคปรับสมดุลชีวิตมาฝากค่ะ

กินอาหารเป็นยา ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร 

แนวคิดเรื่อง "กินอาหารเป็นยา" ได้รับการยอมรับมานานในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์แผนโบราณ เช่น การแพทย์แผนไทย และอายุรเวทของอินเดีย แนวคิดนี้เชื่อว่า อาหารที่เราบริโภคในแต่ละวันมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพ ไม่เพียงแต่ให้พลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่ยังมีสรรพคุณในการป้องกันและรักษาโรคบางชนิดอีกด้วย 

ศาสตร์การกินอาหารเป็นยาจะเน้นการกินอาหารที่หลากหลายและครบถ้วนตามหลักโภชนาการ พูดง่าย ๆ ก็คือการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักสดและผลไม้ตามฤดูกาล ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนไขมันต่ำ ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน รวมถึงการใช้สมุนไพรและเครื่องเทศต่าง ๆ ที่มีสรรพคุณทางยา เช่น กระเทียม หอมแดง ขมิ้นชัน ขิง มะเขือเทศ ผักใบเขียว ฯลฯ ที่สำคัญควรกินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม โดยไม่กินอาหารมากจนเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้

** Note: หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป น้ำตาล ไขมันอิ่มตัว และอาหารที่มีโซเดียมสูง และควรปรุงอาหารด้วยการต้ม-นึ่ง-ผัด หลีกเลี่ยงเมนูปิ้ง-ย่าง-ทอดจะดีกว่า 

ออกกำลังกายตามไลฟ์สไตล์ ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง

การออกกำลังกายไม่เพียงแต่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของเราด้วยนะคะ เพราะเมื่อรูปร่างของเราดีขึ้นก็จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เราแนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เริ่มต้นจากเลือกกิจกรรมที่เราชื่นชอบ ช่วยจะให้ออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอและมีความสุขมากขึ้น เช่น การเดิน การวิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แอโรบิค ตีแบต ฯลฯ ที่สำคัญควรใช้ Gadget หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อช่วยในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ ได้แก่

  • Wearable Devices: สมาร์ทวอชรุ่นต่าง ๆ ได้รับความนิยมสูงสุด สามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ เช่น จำนวนก้าวเดิน ระยะทางที่วิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ และบางรุ่นยังมีฟังก์ชัน ECG อีกด้วย

  • Fitness Trackers: สายรัดข้อมือฟิตเนส เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าสนใจเช่นกัน มีฟังก์ชันการใช้งานคล้ายกับสมาร์ทวอทช์ แต่มีขนาดเล็กกว่าและเน้นการติดตามกิจกรรมและการออกกำลังกายเป็นหลัก

  • แอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน: ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมาย ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพของเรา เช่น การบันทึกกิจกรรมการออกกำลังกาย การคำนวณแคลอรี่ที่เผาผลาญ การตั้งเป้าหมายการออกกำลังกาย และการให้คำแนะนำในการออกกำลังกาย เป็นต้น 

นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และเป็นวิธีลดความเครียดได้อย่างดี จะให้ดีควรหาเพื่อนร่วมออกกำลังกายไปด้วยกัน เพื่อช่วยกันส่งเสริมไลฟ์สไตล์สุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ

เทคนิคปรับสมดุลชีวิต ด้วยการจัดตารางชีวิตให้เหมาะสม

ชีวิตในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด ทำให้หลายคนเกิดภาวะ “เบิร์นเอาท์” หรือหมดไฟในการทำงานได้อย่างง่ายดาย การหาเวลาพักผ่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายและชาร์จพลังให้เต็มที่อีกครั้ง เราแนะนำให้ลองหากิจกรรมที่ชอบเพื่อให้เวลาตัวเองได้หยุดพักในชีวิตประจำวัน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นกับสัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่การนั่งเงียบ ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ จะช่วยลดความเครียด ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้เรากลับมาสดใสพร้อมรับมือกับทุกสิ่งอย่างมีพลัง 

นอกจากนี้ การสร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจด้วยการแบ่งเวลาในแต่ละวันให้เหมาะสม เช่น เวลาทำงาน เวลาพักผ่อน เวลาสำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูง รวมถึงเวลาสำหรับตัวเอง (Me Time) จะช่วยให้คุณรับมือกับความเครียดได้ดีมากขึ้น แล้วยังช่วยเพิ่มความสุขง่าย ๆ ให้เรามีชีวิตที่สมดุลและเป็นกุญแจสู่สุขภาพดีอย่างยั่งยืนด้วยค่ะ

ฝึกทำสมาธิวันละ 10 นาที วิธีทำให้ใจสงบและลดความเครียด

ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าต่าง ๆ ทำให้เราไม่ได้หยุดพักจากการติดสมาร์ทโฟน การฝึกจิตใจให้สงบเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรามีสติและมีความสุขมากขึ้น แนะนำให้ฝึกการหายใจเข้าออกลึก ๆ ระหว่างวัน หรือหาเวลาทำสมาธิวันละ 10-15 นาที (ก่อนเข้านอนก็ได้ค่ะ) การทำสมาธิเป็นวิธีที่ช่วยให้จิตใจสุขสงบและผ่อนคลาย ช่วยคลายความวิตกกังวลและความเครียดได้ นอกจากนี้การทำสมาธิยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีภาวะซึมเศร้า เพราะช่วยให้เราเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น เมื่อจิตใจสงบ ร่างกายจะลดการผลิต “ฮอร์โมนความเครียด” (คอร์ติซอล) จึงส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง และการหายใจเป็นปกติขึ้น อีกทั้งการทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท “พาราซิมพาเทติก” (Parasympathetic Nervous System) ที่ควบคุมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและรักษาสมดุลของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้นนั่นเอง

** Note: การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือการพูดคุยกับคนที่เรารัก ก็เป็นวิธีทำให้ใจสงบและลดความเครียดได้ค่ะ

ศาสตร์กลิ่นหอมบำบัด เคล็ดลับสุขภาพดีทุกวัน

ทราบไหมคะว่า ศาสตร์กลิ่นหอมบำบัด หรือ Aromatherapy ก็ช่วยให้เรามีสุขภาพดีได้ง่าย ๆ เช่นกันค่ะ กลิ่นหอมบำบัดสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลายและฟื้นฟูจิตใจได้อย่างดีเยี่ยม อย่างการจุดเทียนหอมแนวกลิ่นที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจ หรือจุดเทียนหอมระหว่างทำสมาธิก็จะเพิ่มความสงบสุข x2 เลยค่ะ 

นอกจากนี้ การเลือกครีมอาบน้ำหรือสบู่เหลวล้างมือที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากธรรมชาติ ยังส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของเราเช่นกันค่ะ แนะนำให้เลือกกลิ่นหอมที่ชื่นชอบจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขในขณะอาบน้ำมากขึ้น โดยเฉพาะ ครีมอาบน้ำ โพรเทคส์ สูตรพรอพโพลิส ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติจากรังผึ้ง และ Flaxseed Oil ช่วยปลอบประโลมผิวและจิตใจให้สดชื่นผ่อนคลายทันที หากอยากเพิ่มความสุขง่าย ๆ ในระหว่างวันแนะนำ สบู่เหลวล้างมือ โพรเทคส์ สูตรพรอพโพลิส นอกจากกลิ่นหอมจะดีต่อจิตใจ แล้วยังช่วยทำความสะอาดผิวจากแบคทีเรียได้อย่างล้ำลึกอีกด้วย 

**Note: การอาบน้ำอุ่นจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และทำให้กลิ่นหอมซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น 

เห็นไหมคะว่า การดูแลตัวเองเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ ออกกำลังกาย และการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อเราทำสิ่งเหล่านี้จนคุ้นชิน สุขภาพกายและใจของเราจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เริ่มต้นตอนนี้แล้วคุณจะพบว่า การมีไลฟ์สไตล์สุขภาพดีไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด โพรเทคส์ พร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกคนสุขภาพดีไปด้วยกันค่ะ

ติดตามเราได้ทาง: