สิวที่แผ่นหลัง ปัญหากวนใจคนเหงื่อเยอะ รับมืออย่างไรดี?
“สิว” เรื่องเล็กๆ ที่ทำลายความมั่นใจของหลายคนได้เลย โดยเฉพาะ "สิวที่หลัง" ที่มักมาพร้อมเหงื่อ ยิ่งช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าว เหงื่อออกง่าย ยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดสิวที่หลังมากขึ้น จนบางครั้งเราอาจจะอดสงสัยไม่ได้ว่า เหงื่อออกเยอะเป็นโรคอะไรหรือเปล่านะ? โพรเทคส์ ชวนคุณมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังจากเหงื่อ วิธีรับมือเหงื่อออกเยอะ แก้ยังไง รวมไปถึงอาการแบบไหนที่เรียกว่าเหงื่อออกเยอะผิดปกติ พร้อมเผยเคล็ดลับดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณอวดแผ่นหลังเนียนสวยได้อย่างมั่นใจ!
เหงื่อออกเยอะแค่ไหน ถึงเรียกว่าผิดปกติ?
อาการเหงื่อออกมากเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม อุณหภูมิ สภาพอากาศที่ร้อนจัด ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์และภาวะหมดประจำเดือน การออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือแม้แต่ความเครียดและความตื่นเต้น ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติได้เช่นกัน
ส่วน “ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ” (Hyperhidrosis) เป็นภาวะที่ร่างกายขับเหงื่อมากผิดปกติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสภาพอากาศร้อนจัด ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยส่วนใหญ่แล้วเหงื่อมักจะออกมากบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า รักแร้ ข้อพับ ใต้วงแขน และใบหน้า แต่จะรู้ได้อย่างไรว่า คุณมีภาวะเหงื่อออกเยอะผิดปกติหรือเปล่า? เรามีวิธีสังเกตตัวเองง่ายๆ ตามนี้ค่ะ
เหงื่อออกมากจนรบกวนชีวิตประจำวัน เช่น ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ หรือไม่มั่นใจเมื่อต้องเข้าสังคม
เหงื่อออกมากทั้งที่ไม่ได้ทำกิจกรรมหนักๆ เล่นกีฬา หรืออยู่ในที่ที่อากาศร้อนอบอ้าว
เหงื่อออกมากเฉพาะจุด เช่น เหงื่อออกมือ เหงื่อออกเท้า หรือเหงื่อออกใบหน้าเยอะ
เหงื่อออกตอนกลางคืน (Night Sweats) ที่เกิดจากภาวะวัยทอง การดื่มแอลกอฮอล์ ยาบางชนิด การติดเชื้อ และโรคบางชนิด
หากคุณออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรืออยู่ในที่ที่อากาศร้อนจัด ก็เป็นเรื่องปกติที่เหงื่อจะออกเยอะ แต่ถ้าเหงื่อออกมากผิดปกติทั้งๆ ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย หรืออยู่ในที่ที่อากาศร้อนอบอ้าว นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่าง เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคเบาหวาน หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ที่ส่งผลให้ร่างกายขับเหงื่อมากผิดปกติ รวมถึงผู้ป่วยวัณโรคและโรคเอดส์ก็มีเหงื่อออกเยอะได้เช่นกัน หากคุณมีอาการดังกล่าว แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
เหงื่อออกเยอะผิดปกติ เกิดจากสาเหตุใดบ้าง?
หลังจากที่เราสังเกตตัวเองเบื้องต้นและสงสัยว่า มีความเสี่ยงต่อการเป็นภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติหรือไม่? โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะทำการวินิจฉัยและแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ นั่นคือ
1. ภาวะเหงื่อออกมากโดยไม่ทราบสาเหตุ (Primary Hyperhidrosis)
ภาวะที่ร่างกายผลิตเหงื่อมากกว่าปกติ โดยไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ มักเกิดขึ้นบริเวณเฉพาะของร่างกาย เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ใต้วงแขน ใบหน้า และขาหนีบ อาการนี้มักเริ่มตั้งแต่ช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่น และอาจเป็นปัญหาเรื้อรังไปตลอดชีวิต โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ภาวะนี้เกี่ยวข้องกับการทำงานผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมต่อมเหงื่อ และอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางพันธุกรรมได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่ผู้ที่มีภาวะเหงื่อออกมากโดยไม่ทราบสาเหตุมักจะมีอาการ ดังนี้
เหงื่อออกมากผิดปกติบริเวณเฉพาะ เช่น ใต้วงแขน ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ข้อพับต่างๆ เป็นต้น
เกิดขึ้นบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือมากกว่านั้น
เหงื่อออกเยอะจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยๆ ในระหว่างวัน
ทำให้เกิดความอับชื้นและกลิ่นกาย ที่ส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
2. ภาวะเหงื่อออกมาก จากความผิดปกติของร่างกาย (Secondary Hyperhidrosis)
รู้หรือไม่ว่า อาการเจ็บป่วยต่างๆ และความไม่สมดุลของฮอร์โมนก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะเหงื่อออกมากได้เช่นกัน เช่น ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เบาหวาน โรคหัวใจ วัยหมดประจำเดือน (เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน) การตั้งครรภ์ การติดเชื้อ ความเครียด ภาวะขาดวิตามิน โรคมะเร็ง รวมไปถึงผลข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ ยาลดความดัน ยาขับปัสสาวะ ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ฯลฯ ภาวะนี้จะรุนแรงกว่าเหงื่อออกมากแบบไม่ทราบสาเหตุและอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
เหงื่อออกทั่วตัว และเหงื่อออกมากในเวลากลางคืน
ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจไม่อิ่ม หรือแน่นหน้าอก
อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน
น้ำหนักลด และอาจมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
เพื่อให้แน่ใจว่า คุณเป็นภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติหรือไม่? แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจเช็คร่างกาย โดยแพทย์อาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ หรือเอกซเรย์ เพื่อค้นหาสาเหตุของการเหงื่อออกมากผิดปกติ และทำการรักษาอย่างเหมาะสมนั่นเองค่ะ
ภาวะ “เหงื่อออกมากผิดปกติ” รักษาได้อย่างไร?
แนวทางในการรักษา “ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ” จะเริ่มจากการค้นหาสาเหตุที่แน่ชัดเสียก่อน จากนั้นแพทย์จะทำการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละคน เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน หรือการใช้ยารักษาโรคไทรอยด์ รวมไปถึงการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ นั่นคือ การใช้ยาลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ฉีดโบท็อกซ์เพื่อบล็อกการทำงานที่ผิดปกติของต่อมเหงื่อ แต่ถ้าปัญหาเหงื่อออกเยอะมีความรุนแรงและรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แล้วไม่เห็นผล แพทย์อาจพิจารณาให้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อได้ค่ะ
สิวที่หลังจากเหงื่อออกเยอะ เกี่ยวข้องกันจริงหรือ?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเหงื่อเยอะถึงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังกันแน่? จริงๆ แล้ว “เหงื่อ” ไม่ได้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดสิวโดยตรงค่ะ แต่เหงื่อเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิด “สภาพแวดล้อม” ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อ “P. acnes” (Propionibacterium acnes) แบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ตามรูขุมขนและทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมัน เช่น ใบหน้า แผ่นหลัง และหน้าอก เป็นต้น
เมื่อเราเหงื่อออกมากผิวหนังก็จะเกิดความอับชื้นได้ง่าย อีกทั้งแผ่นหลังเป็นบริเวณที่มีรูขุมขนกว้างและต่อมไขมันเยอะอยู่แล้ว จึงเอื้อต่อการสะสมของเหงื่อไคล ไขมัน และสิ่งสกปรกต่างๆ กลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย P.acnes ทำให้เกิดการอักเสบและเป็นสิวที่หลังในที่สุด รวมไปถึงการสวมใส่เสื้อผ้ารัดแน่นจนเกินไป หรือเสื้อผ้าเสียดสีกับแผ่นหลังก็กระตุ้นให้เกิดสิวที่หลังได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเสื้อผ้าหนาๆ หรือลักษณะของเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดี จึงทำให้เกิดความอับชื้น การสะสมของคราบเหงื่อ และเป็นสิวที่หลังในที่สุด
รับมือกับ “สิวที่หลัง” จากเหงื่อออกเยอะได้อย่างไร?
หากปัญหาเหงื่อออกเยอะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และทำให้เกิดสิวที่แผ่นหลังส่งผลต่อความมั่นใจ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดูแลรักษาความสะอาดของร่างกายเป็นประจำ ด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายที่มีประสิทธิภาพ ช่วยขจัดแบคทีเรียต้นเหตุของการเกิดสิวและปัญหาผิวต่างๆ ได้อย่างดี รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อสุขอนามัยที่ดีของคุณ นั่นคือ
อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง: การอาบน้ำเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลผิวให้สุขภาพดีอยู่เสมอ ช่วยขจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกตกค้างได้อย่างดี สำหรับใครที่มีปัญหาสิวที่หลังแนะนำให้เลือกใช้ สบู่ก้อนโพรเทคส์ สูตรเดอร์มา แอคเน่ ผสาน BHA + AHA ช่วยสลายต้นตอการเกิดสิวที่หลังได้อย่างเห็นผลจริง พร้อมชำระล้างความมันและสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก
สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี: ในช่วงฤดูร้อน หรือวันที่อากาศร้อนอบอ้าว แนะนำให้เลือกเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน จะช่วยระบายความอับชื้นและลดการเกิดเหงื่อได้ดีขึ้น
ทาสารส้ม: สารส้มมีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการดูดซับความชื้นและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ดี เมื่อแบคทีเรียลดลงจะส่งผลให้กลิ่นกายที่เกิดจากการย่อยสลายของเหงื่อลดลงไปด้วย
ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน จะช่วยเติมความชุ่มชื้นและช่วยให้ร่างกายไม่ต้องผลิตเหงื่อเพื่อระบายความร้อนออกมานั่นเอง
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด: อาหารรสจัด หรืออาหารเผ็ดร้อน รวมถึงวัตถุดิบที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หอมแดง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเหงื่อมากขึ้น
รับมือกับความเครียด: ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ รวมไปถึงอารมณ์ต่างๆ เช่น ความโกรธ ความกลัว ความตื่นเต้น และวิตกกังวล ที่ล้วนกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อออกมากขึ้น
หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือแกะเกาบริเวณที่เป็นสิว: อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและลุกลามมากขึ้นได้
ทาผลิตภัณฑ์รักษาสิว: ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide หรือ Salicylic Acid ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง: หากสิวที่หลังมีอาการรุนแรง หรือไม่ดีขึ้นหลังจากดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อเข้ารับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
อาการแพ้เหงื่อ มีจริงหรือไม่ และรับมืออย่างไร?
หลายคนอาจสงสัยว่า อาการ "แพ้เหงื่อ" เป็นอย่างไรกันแน่? โรคแพ้เหงื่อตัวเอง (Atopic Dermatitis) เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งในรูปแบบของผื่นคันหรือผื่นลมพิษ มักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น การสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดี รับประทานอาหารรสจัด หรือการออกกำลังกาย ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเหงื่อออกเยอะมากขึ้น จึงทำให้เกิดผื่นคันตามร่างกายบริเวณที่มีเหงื่อออกมากและสิวที่หลังได้อีกด้วย หากคุณมีโรคแพ้เหงื่อก็สามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง ดังนี้ค่ะ
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น อากาศร้อนจัด การออกกำลังกายหนักๆ ฯลฯ
สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทุกครั้ง หลังออกกำลังกาย หรือเหงื่อออกเยอะ
ทาครีมที่มีส่วนผสมของ Calamine Lotion หรือ Hydrocortisone Cream เพื่อบรรเทาอาการคัน ลดการแพ้ และลดการอักเสบของผิวหนังได้
ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หากอาการรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น
อย่าลืมว่า การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันและรับมือกับปัญหาสิวที่หลังจากเหงื่อออกเยอะได้อย่างดี เช่นเดียวกับการอาบน้ำทำความสะอาดผิวกายได้อย่างล้ำลึก ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณมากขึ้น และช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวดีอยู่เสมอด้วยนะคะ