เคล็ดลับกู้ผิวคล้ำเสีย ให้ผิวสวยสุขภาพดีง่ายๆ แค่อาบน้ำ

เชื่อว่า สาวๆ หลายคนกังวลกับปัญหา "ผิวหมองคล้ำ" หรือ “ผิวคล้ำ” ทั้งจากแสงแดด มลภาวะ หรือกรรมพันธุ์ เพราะผิวหมองคล้ำส่งผลต่อความมั่นใจในเรื่องการแต่งกายและเมคอัพอย่างมาก สาวๆ หลายคนเลยค้นหาสารพัดวิธีที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นทันใจแบบผิวมีออร่า หรือตามหาโลชั่นผิวขาวเร่งด่วนโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพ เรามีเคล็ดลับดีๆ ในการฟื้นฟูผิวหมองคล้ำและผิวคล้ำเสียจากแสงแดดให้ผิวดูขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ หรือผิวเปล่งประกายในแบบที่เป็นคุณ รับรองว่าทำตามได้ง่ายๆ ปลอดภัย และเหมาะกับผิวบอบบางของคนไทยอย่างแน่นอน!
ผิวคล้ำทำไงดี? ไขข้อข้องใจสู่วิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำอย่างตรงจุด!
จริงๆ แล้วว่า ผิวคล้ำเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด มลภาวะ ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และกรรมพันธุ์ โดยมีสาเหตุหลักมาจาก “เม็ดสีเมลานิน” (Melanin) ซึ่งเป็นเม็ดสีที่สร้างขึ้นจากเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่า “เมลาโนไซต์” (Melanocyte) ที่มีโทนสีน้ำตาลแดงไปจนถึงสีดำ และเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คนเรามีสีผิวที่แตกต่างกันไปนั่นเอง
นอกจากนี้ เมลานินยังช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายของรังสี UV ในแสงแดด ที่ทำให้เสี่ยงต่อภาวะ “Photoaging” หรือ “ผิวแก่ก่อนวัย” จากการที่ผิวโดนแดดทำร้ายเป็นเวลานาน และคนที่ตากแดดเป็นประจำ พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ เม็ดสีเมลานินทำหน้าที่เหมือนร่มกันแดดตามธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ช่วยไม่ให้ผิวไหม้แดด และลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง แต่ถ้าร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ ตามมา เช่น ฝ้า กระ และจุดด่างดำ ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ ได้แก่
แสงแดด: รังสี UVA และ UVB จากแสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวคล้ำเสีย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว
มลภาวะ: ฝุ่น ควัน และมลภาวะต่างๆ ในอากาศสามารถทำลายผิวชั้นนอกของเรา และทำให้ผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้นได้
เครื่องสำอาง: การเลือกใช้สกินแคร์หรือเมกอัพที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงการล้างทำความสะอาดเมกอัพไม่ดีพอ ทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนที่ก่อให้เกิดสิวและผิวคล้ำเสียตามมา
การขัดผิวแรง: การขัดผิวกายด้วยผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มีส่วนผสมที่รุนแรงต่อผิว หรือขัดผิวบ่อยเกินไป อาจจะทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้ผิวคล้ำเสียได้
สูบบุหรี่: สารนิโคตินและสารพิษจากบุหรี่จะตรงเข้าทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้เร็วขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น การตั้งครรภ์ หรือช่วงมีประจำเดือน อาจทำให้ผิวหนังผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้นและทำให้ผิวดูหมองคล้ำ
โรคบางชนิด: โรคตับ โรคไต หรือโรคต่อมไร้ท่อ อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีผิวและทำให้ผิวดูหมองคล้ำ
ขาดวิตามินบางอย่าง: หากร่างกายของเราขาดวิตามินซี วิตามินอี หรือวิตามินบี 12 อาจจะทำให้ผิวหมองคล้ำและขาดความชุ่มชื้นได้
พักผ่อนไม่เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (ขึ้นอยู่กับช่วงวัย) ส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารคอร์ติซอล (Cortisol) มากขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดและส่งผลให้ผิวหมองคล้ำนั่นเอง
อยากผิวขาวใสไร้จุดด่างดำ ควรดูแลผิวพรรณอย่างไรดี?
รู้สาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำได้อย่างตรงจุดกันแล้ว เรามาดูเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้ขาวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติกันดีกว่า ขอย้ำว่า “ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติ” หรือผิวเปล่งประกายในแบบที่เป็นคุณ ไม่ใช่ผิวขาวสว่างจนเกินไปแต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แม้จะดูแล้วสวยสะดุดตาก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่า ผิวขาวเปล่งประกายตามธรรมชาติ ย่อมดีต่อสุขภาพและเสริมความมั่นใจได้อย่างดีด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้
ทาครีมกันแดด: ทุกครั้งก่อนออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ที่ทำให้ผิวคล้ำและมีริ้วรอยก่อนวัย สำหรับแสงแดดบ้านเราแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 และ PA++++ สูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง
บำรุงผิวด้วยโลชั่นสูตรไวท์เทนนิ่ง: หลังอาบน้ำทำความสะอาดผิวกาย แนะนำให้บำรุงผิวด้วยโลชั่น (สำหรับคนผิวธรรมดา) หรือครีมบำรุงผิว (สำหรับผิวแห้ง) สูตรไวท์เทนนิ่ง ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี อาร์บูติน (Arbutin) ไนอาร์ซินาไมด์ (Niacinamide) ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินที่มากเกินไป และช่วยปรับสภาพผิวให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น
ดื่มน้ำเปล่าวันละ 1.5-2 ลิตร: นอกจากการดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและขับสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกายได้อย่างดี แล้วยังช่วยให้ผิวเปล่งประกาย เนียนนุ่ม และชุ่มชื้นขึ้น วิธีง่ายๆ คือวางขวดน้ำดื่มขนาด 1.5-2 ลิตรไว้ใกล้มือ และพยายามจิบน้ำบ่อยๆ จนกว่าจะหมดขวด
พักผ่อนให้เพียงพอ: เคยสังเกตไหมว่า วันไหนที่นอนน้อยหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวจะดูหมองคล้ำไม่สดใสเหมือนเคย ถ้าอยากให้ผิวเปล่งประกายควรพักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 7-9 ชั่วโมง หรือถ้าทำได้ควรเข้านอนก่อน 4-5 ทุ่มจะช่วยให้ผิวฟื้นฟูตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและผิวเปล่งประกายขึ้น
กินวิตามินซี: นอกจากจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง แล้ววิตามินซียังช่วยให้ผิวขาวใสขึ้นอีกด้วย เราสามารถกินผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง หรือกินวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมก็ได้เช่นกัน แต่ควรเลือกวิตามินซีที่ผ่านการรับรองโดย อย. หรือภายใต้คำแนะนำของแพทย์จะปลอดภัยกว่า
สครับผิวกาย: นอกจากการอาบน้ำทำความสะอาดผิวกายทุกวัน แล้วควรกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ทำให้ผิวหมองคล้ำด้วยการสครับผิวกายสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนคนที่มีผิวแห้งมากแนะนำให้สครับผิว 2 สัปดาห์ต่อหนึ่งครั้งก็เพียงพอ เลือกสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวแห้งและไม่ทำให้ผิวระคายเคืองจะดีที่สุด
นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และฝึกปล่อยวางความเครียด เพื่อให้ผิวสุขภาพดีจากภายในและเปล่งประกายสู่ภายนอกอย่างเป็นธรรมชาตินั่นเองค่ะ
เคล็ดลับง่ายๆ อาบน้ำให้ผิวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ
หลายคนอาจจะมองข้ามขั้นตอนนี้ แต่จริงๆ แล้ว "การอาบน้ำ" เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ช่วยกู้ผิวหมองคล้ำให้กลับมาขาวกระจ่างใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ เคยสังเกตไหมว่า หลังอาบน้ำใหม่ๆ ผิวจะดูสดชื่นและเปล่งประกายขึ้นทันที แต่เราควรจะอาบน้ำอย่างถูกวิธี เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายหรือสบู่อาบน้ำที่เหมาะสมต่อสภาพผิว และใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เคล็ดลับง่ายๆ เริ่มจากการเลือกสบู่หรือครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว และมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน หรือครีมอาบน้ำโพรเทคส์ สูตรพรอพโพลิส ที่ผสานแฟลกซ์ซีดออยล์ จากสารสกัดจากรังผึ้งธรรมชาติ เพื่อมอบความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้สุขภาพดี ระหว่างอาบน้ำแนะนำให้ใช้ใยบวบหรือฟองน้ำขัดผิวกายเบาๆ เป็นวงกลมให้ทั่วเรือนร่าง เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเผยผิวใหม่ที่ดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น