คันจากเหงื่อ สัญญาณเตือนแบคทีเรีย ดูแลง่ายๆ แค่อาบน้ำ

สังเกตไหมคะว่า ทำไมหลังออกกำลังกายหรือวันที่อากาศร้อนจนเหงื่อซึม เรามักจะรู้สึกคันยิบ ๆ ตามร่างกาย หลายคนอาจคิดว่าแค่อาบน้ำลดคันก็คงจะดีขึ้นเอง แต่บางครั้งอาบน้ำแล้วก็ยังรู้สึกคันอยู่ดี อาการคันหลังออกกำลังกาย ผิวคันจากเหงื่อ หรือระคายเคืองจากเหงื่อ เป็นปัญหาที่หลายคนมักมองข้ามและคิดว่าอาจไม่ได้เกิดจากเหงื่อโดยตรงหรือคงจะผิวแพ้ง่าย แต่จริงๆ แล้วนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนจาก ‘แบคทีเรีย’ ที่สะสมอยู่บนผิว เราชวนคุณมาเจาะลึกถึงสาเหตุพร้อมวิธีดูแลที่ตรงจุดกันค่ะ
เผยความสัมพันธ์ระหว่าง ‘เหงื่อ’ กับ ‘อาการคัน’
โดยปกติแล้ว ‘เหงื่อ’ (Sweat) มีหน้าที่สำคัญในการช่วยระบายความร้อนและรักษาสมดุลอุณหภูมิของร่างกาย แต่ในบางสภาวะเหงื่อก็สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการคันได้เช่นกัน งานวิจัยโดย NIH (National Institute of Health) จากสหรัฐอเมริกา เผยให้เห็นถึงกลไกที่เหงื่อทำให้เกิดอาการคัน นั่นคือเมื่อเหงื่อสัมผัสกับผิวหนัง จะไปกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ชื่อว่า ‘มาสต์เซลล์’ (Mast Cells) ให้หลั่งสารเคมี ‘ฮีสตามีน’ (Histamine) ออกมา ซึ่งฮีสตามีนนี่เองที่เป็นตัวการสำคัญทำให้หลอดเลือดขยายตัว เกิดเป็นผื่นแดง นูน หรือผื่นคันยิบ ๆ ตามร่างกาย การค้นพบจากงานวิจัยล่าสุดของ NIH ระบุความสัมพันธ์ระหว่าง ‘เหงื่อ’ และ ‘อาการคัน’ ไว้อย่างน่าสนใจ โดยมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการผื่นคัน ดังนี้ค่ะ
ความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสม: เมื่อผิวของเราเกิดการอับชื้นจากเหงื่อบวกกับอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นจากความร้อน กลายเป็นสภาพแวดล้อมชั้นดีที่ทำให้แบคทีเรียต่าง ๆ เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว รวมถึง Staphylococcus aureus เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนัง การเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสียสมดุล เกิดการระคายเคือง และอาการคันตามมา
สวมเสื้อผ้าระบายอากาศไม่ดี: การสวมเสื้อผ้าที่หนา ระบายอากาศไม่ดี อับชื้น และเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป จะกักเก็บคราบเหงื่อและความร้อนไว้ในชั้นผิวทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มโอกาสการเกิดผดผื่นและอาการคันอีกด้วย
ละเลยเรื่องความสะอาด: คนที่ไม่อาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย หรือในวันที่อากาศร้อนจัดจนเหงื่อออกมาก แล้วปล่อยให้เหงื่อแห้งเองทำให้แบคทีเรียหมักหมมบนผิวหนังนานเกินไป โดยเฉพาะบริเวณข้อพับต่าง ๆ เช่น คอ, รักแร้, ข้อพับแขนขา และหลัง เป็นการกระตุ้นให้ผิวมีผื่นคันและผิวแพ้ง่ายขึ้น
ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin): คนที่มีผิวแพ้ง่ายจะมีเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติที่ผิวบอบบางและไวต่อการระคายเคืองจากเหงื่อและแบคทีเรียได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ทำให้เหงื่อและแบคทีเรียส่งผลต่ออาการผื่นคันและแสบแดงนั่นเอง
โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis หรือ AD): โรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่ไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น ความร้อน ความเครียด และมลภาวะต่าง ๆ ส่งผลให้ผิวแห้งกร้านและผิวแพ้ง่ายกว่าคนทั่วไป ยิ่งคุณมีอาการของโรค AD รุนแรงมากขึ้น ปริมาณน้ำตาลกลูโคสในเหงื่อก็จะสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งเหงื่อที่มีปริมาณน้ำตาลสูงจะเข้าไปขัดขวางกระบวนการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่เสียหายอยู่แล้วให้ฟื้นฟูตัวเองช้าลง และยังกระตุ้นให้เกิดอาการคันมากขึ้น
ผิวเสียสมดุล: โดยปกติแล้วผิวสุขภาพดีจะมีสภาวะเป็นกรดอ่อน ๆ (ค่า pH ประมาณ 4.7-5.5) เพื่อเป็นเกราะป้องกันเชื้อโรคและรักษาความชุ่มชื้นได้อย่างดี แต่คนที่ออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมากจะมีเหงื่อสะสมบนผิวค่อนข้างสูง ซึ่งค่า pH ของเหงื่อจะมีสภาวะเป็นด่างอ่อน ๆ (ค่า pH ประมาณ 6-7) ทำให้ผิวเสียสมดุลความเป็นกรดอ่อน ๆ เกราะป้องกันผิวจึงอ่อนแอ และกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่สามารถเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็วในสภาวะที่ผิวเสียสมดุล โดยของเสียที่แบคทีเรียปล่อยออกมากระตุ้นให้ผิวหนังอักเสบและเกิดอาการคันรุนแรงได้
ลองสังเกตดูค่ะว่า อาการคันและผิวแพ้ง่ายของคุณตรงกับข้อใดกันบ้าง หากคุณมีอาการคันที่เชื่อมโยงกับโรคผิวหนังต่าง ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อช่วยรักษาอาการผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบได้อย่างเหมาะสม แล้วอย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดเพื่อสุขอนามัยที่ดีและกลิ่นกายหอมสะอาดกันนะคะ
เคล็ดลับง่าย ๆ จัดการเหงื่อและอาการคันอย่างมีประสิทธิภาพ
ใครที่กังวลกับอาการผื่นคันจากเหงื่อและแบคทีเรียในผิว ตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิวให้อ่อนแอและผิวแพ้ง่าย เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมาฝากค่ะ
อาบน้ำหลังออกกำลังกาย: วันไหนที่เหงื่อออกมาก เช่น หลังออกกำลังกาย ทำงานกลางแจ้ง หรือวันที่อากาศร้อนจัด ควรรีบอาบน้ำเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อและแบคทีเรียทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน
ซับผิวให้แห้ง: หลังอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดและเนื้อนุ่มซับเบา ๆ ให้ผิวแห้งสนิท หลีกเลี่ยงการถูแรง ๆ เพราะอาจทำร้ายผิวให้บอบบางและทำให้ผิวระคายเคืองได้
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช่: ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำทั้งสบู่ก้อนหรือครีมอาบน้ำ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียต่าง ๆ และอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว เพื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึกและปกป้องผิวไปพร้อมกัน เราแนะนำ ครีมอาบน้ำโพรเทคส์ สูตรพรอพโพลิส ชำระล้างแบคทีเรียถึง 99.9% ผสานคุณค่า ‘พรอพโพลิส’ สารสกัดจากรังผึ้งธรรมชาติ ที่ผึ้งใช้ปกป้องรังจากแบคทีเรียต่าง ๆ ให้ฟองครีมนุ่มละมุน ช่วยทำความสะอาดผิวกายจากเหงื่อ สิ่งสกปรก และแบคทีเรียได้อย่างล้ำลึก เพื่อสุขภาพผิวที่ดีทุกวัน
สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ควรเลือกเสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศได้ดี เพื่อช่วยระบายความอับชื้นบนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควรสวมเสื้อผ้าสะอาด หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าเก่าที่มีคราบเหงื่อ สิ่งสกปรก และแบคทีเรียหมักหมม จนทำให้ผิวระคายเคืองและมีผื่นคันตามมา จะเห็นได้ว่า ‘การอาบน้ำ’ คือหัวใจสำคัญของการทำความสะอาดผิวจากแบคทีเรียได้อย่างดีเยี่ยม แต่หากคุณเลือกสบู่หรือครีมอาบน้ำที่ไม่เหมาะสมก็อาจซ้ำเติมปัญหาผื่นคันและผิวแพ้ง่ายให้แย่ลงกว่าเดิม ทางที่ดีควรเลือกครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย พร้อมคงรักษาความชุ่มชื้นและสมดุลค่า pH ของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกกิจกรรมและหมดกังวลเรื่องอาการคันจากเหงื่อนั่นเอง
** เรื่องน่ารู้ก่อนซื้อครีมอาบน้ำ >> FLAXSEED OIL สารสกัดธรรมชาติทรงพลัง อัปเลเวลสบู่ที่ใช้ปกป้องผิว
อ้างอิงข้อมูล