ผิวใสออร่าจับ 8 เคล็ดลับดูแลผิวให้เนียนใส ผิวสวยสุขภาพดีไม่ต้องรอนาน!
ใครๆ ก็อยากมีผิวเนียนสวย เปล่งประกาย และผิวกระจ่างใสแบบผิวออร่าจับ เพื่อเสริมความมั่นใจให้คุณดูดีแบบ healthy ตลอดเวลา เราจึงรวม 8 เคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยฟื้นบำรุงและดูแลผิวให้เรียบเนียน กระจ่างใส ผิวดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมให้คุณอวดผิวสวยสุขภาพดีและผิวออร่าพุ่งจนใครๆ ก็ต้องเหลียวมอง!
อยากผิวสวยสุขภาพดีต้องเข้าใจ "ระบบผิวหนัง"
อยากมีผิวสวยและสุขภาพดี แค่ทาครีมบำรุงผิวทั่วเรือนร่างอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า "ระบบผิวหนัง" (Integumentary System) ของคนเรานั้นมีความสำคัญมากเพียงไร? นอกจากจะเป็นปราการด่านแรกที่คอยปกป้องร่างกายจากฝุ่นละออง มลภาวะ เชื้อโรค แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่างๆ แล้วยังมีต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน และต่อมต่างๆ อยู่ภายใน ซึ่งโครงสร้างของระบบผิวหนังจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ได้แก่
หนังกำพร้า (Epidermis): ผิวหนังที่อยู่ชั้นนอกสุดที่มีความหนาเพียง 0.1 มิลลิเมตร ทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากฝุ่นละออง มลภาวะ รักษาสมดุลความเป็นกรดอ่อนๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรีย รวมถึงป้องกันการสูญเสียน้ำที่ทำให้ผิวแห้ง แล้วยังเป็นเกราะป้องกันผิวหนังตามธรรมชาติอีกด้วย
หนังแท้ (Dermis): ชั้นที่อยู่ใต้หนังกำพร้าเป็นชั้นผิวที่มีความหนาและยืดหยุ่น ประกอบด้วยเส้นเลือด เส้นประสาท ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน และรากขน ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงเซลล์ผิวหนังและรับรู้ความรู้สึกต่างๆ เช่น ความร้อน ความเย็น ความเจ็บปวด เป็นต้น องค์ประกอบหลักที่พบในผิวชั้นหนังแท้ ได้แก่ คอลลาเจน อิลาสติน รวมถึงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น ทั้งยังช่วยให้ผิวมีสุภาพดีและเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำในผิว ซึ่งแสงแดด อุณหภูมิ ความเครียด และอายุที่เพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลต่อคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวดูหย่อนคล้อย ผิวแห้งกร้าน และผิวไม่เรียบเนียนอีกด้วย
ชั้นไขมัน (Subcutaneous Fat Layer): เป็นผิวชั้นที่อยู่ลึกที่สุด ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนคอลลาเจน ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บพลังงานและรองรับการกระแทก เพื่อป้องกันเนื้อเยื่อและเอ็นกล้ามเนื้อไม่ให้ฉีกขาดหรือบาดเจ็บได้ง่าย แล้วยังช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่อยู่เสมอ
หน้าที่ของผิวหนัง คืออะไร?
ถึงจุดนี้ คุณอาจจะพอเข้าใจแล้วว่า ผิวหนังมีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย โดยหน้าที่ของผิวหนังเป็นเกราะป้องกันร่างกายจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ แบคทีเรีย ไวรัส สารเคมี และการบาดเจ็บต่างๆ ทั้งยังช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างดี ผลิตวิตามินดีที่ได้รับจากแสงแดด ซึ่งจำเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียมและการทำงานของกระดูกให้แข็งแรง ช่วยขจัดของเสียผ่านทางเหงื่อและรูขุมขน และเป็นอวัยวะรับสัมผัสด่านแรกๆ ของร่างกาย
นอกจากนี้ ผิวหนังยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ เพราะมีเซลล์ประสาทมากมายที่ช่วยให้เรารับรู้สัมผัสต่างๆ เช่น ความร้อน ความเย็น ความเจ็บปวด ฯลฯ จึงทำให้เราตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอกผ่านเส้นประสาทที่อยู่ใต้ผิวหนัง อีกทั้งผิวหนังยังมีเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อและการอักเสบได้อย่างดี แล้วยังมีบทบาทในการแสดงออกทางอารมณ์ เช่น การเปลี่ยนสีผิวเมื่อรู้สึกตื่นเต้นหรือเขินอาย ที่สำคัญผิวหนังยังช่วยให้คุณดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ผิวกระจ่างใส หรือที่หลายคนอยากจะมี “ผิวออร่า” นั่นเอง
เคล็ดลับผิวสวยสุขภาพดี และวิธีทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เข้าใจโครงสร้างของระบบผิวหนังและหน้าที่ของผิวหนังกันแล้ว หลายคนคงอยากจะรู้วิธีทำให้ผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เราชวนคุณมาดูแลผิวให้สุขภาพดีจากภายใน เพื่อให้ผิวเปล่งประกายสู่ภายนอกและผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เป็นผิวขาวสวยอย่างสุขภาพดีแบบสายเฮลท์ตี้ เพียงทำตาม 8 เคล็ดลับดีๆ ที่เรานำมาฝาก รับรองว่าผิวจะสวยและออร่าพุ่งอย่างแน่นอน!
ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
อาบน้ำให้ผิวสะอาด อวดผิวเปล่งปลั่งทันใจ!
สครับผิวกาย ช่วยให้ผิวมีออร่าพุ่ง!
กินแบบ healthy เพื่อผิวสวยสุขภาพดีจากภายใน
นอนให้เพียงพอ ผิวก็เปล่งประกายขึ้น
ปกป้องผิวจากแสงแดด อาวุธลับสู่ผิวขาวใส
บำรุงผิวด้วย “ไวท์เทนนิ่ง” ตัวช่วยผิวขาวใส ลดเลือนจุดด่างดำ
บำรุงผิวสวยจากภายในสู่ภายนอกด้วย “วิตามินซี”
แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนก็ยังดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน อย่างที่รู้กันดีว่าน้ำเปล่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย ช่วยให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง ระบบผิวหนังอีกด้วย การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว (แก้วละ 250 มล.) จะช่วยให้ผิวของเราดูชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน แต่งหน้าง่ายขึ้น แถมยังช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก
** Tips: ลองหาขวดน้ำหรือแก้วน้ำสวยๆ สักใบมาวางไว้ใกล้มือ เพื่อเตือนตัวเองให้ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน หรือจะผสมผลไม้สดลงไปในน้ำเปล่าก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นและรสชาติให้กับน้ำเปล่าได้ดียิ่งขึ้น
อยากมีผิวสวยต้องอาบน้ำทำความสะอาดผิวกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากมีผิวขาวกระจ่างใสขึ้น การอาบน้ำช่วยชะล้างสิ่งสกปรก น้ำมัน และแบคทีเรียที่สะสมอยู่บนผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้า ช่วยให้ผิวกายสะอาดล้ำลึก และคืนความสดชื่นขึ้นทันที ที่สำคัญผิวยังดูเปล่งปลั่งทันใจหลังอาบน้ำอีกด้วย
**Tips: การเลือกใช้สบู่และครีมอาบน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพผิวอย่างมาก ควรเลือกครีมอาบน้ำที่ลดการสะสมของแบคทีเรียได้ถึง 99.9% ปกป้องผิวยาวนาน 12 ชั่วโมง มีสารสกัดจากแฟลกซ์ซีดออยล์ที่ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้าน และผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว
การสครับผิวกายเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงและอ่อนเยาว์กว่า ตามปกติแล้ววงจรการผลัดเซลล์ผิว (Skin Cell Turnover) จะเกิดขึ้นทุก 28 วัน แต่ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น แสงแดด ความเครียด มลภาวะ นอนน้อย และการดื่มน้ำน้อยเกินไป ส่งผลให้การผลัดเซลล์ผิวทำงานช้าลง ผิวจึงดูหมองคล้ำและแห้งกร้าน การสครับจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก เพียงสครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ลดความมันบนผิว และช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก พร้อมอวดผิวขาวเปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ
** Tips: ควรเลือกสครับที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยนและมีประสิทธิภาพ รวมถึงสครับที่มีส่วนผสมของวิตามินหรือสารสกัดจากพืช เช่น วิตามินอี, วิตามินซี หรือสารสกัดจากชาเขียว เพื่อช่วยบำรุงและปรับสีผิวให้กระจ่างใส ที่สำคัญควรเลือกสครับที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ
คนที่อยากมีผิวสวยสุขภาพดีควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เช่น ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยในการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่น โดยเฉพาะผักใบเขียว อะโวคาโด ผลไม้ตระกูลส้มและเบอร์รี่ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เช่นเดียวกับอาหารที่อุดมด้วยวิตามินอี โอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยบำรุงผิวให้สุขภาพดีอยู่เสมอ อาทิ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ถั่ว ธัญพืช เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดเจีย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย และช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก
** Tips: ครีเอทเมนูเฮลท์ตี้ง่ายๆ ที่มีส่วนผสมของผักสดและผลไม้ หรือปั่นสมูทตี้ผลไม้สดไว้ดื่มในตอนเช้าก็ดีต่อผิวและระบบขับถ่ายอีกด้วย
หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนั้นส่งผลดีต่อผิวพรรณ แต่รู้หรือไม่ว่าขณะที่เรานอนหลับระบบผิวหนังยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างเซลล์ผิวใหม่ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต การนอนหลับอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวของเราดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และผิวสุขภาพดีในระยะยาว
** Tips: เพิ่มบรรยากาศภายในห้องนอนให้ผ่อนคลายมากขึ้น ด้วยการปิดไฟให้มืดสนิท งดเล่นมือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดก่อนเข้านอนประมาณ 1-2 ชั่วโมง รวมถึงจุดเทียนหอมหรือใช้เครื่องพ่นน้ำมันหอมระเหย ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบายมากขึ้น
แน่นอนว่าถ้าพูดถึงวิธีทำให้ผิวขาวขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดและขาดไม่ได้เลยคือการทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ด้วยแสงแดดเมืองไทยที่ร้อนแรงมากจริงๆ รวมถึงรังสียูวีในแสงแดดทั้ง UVA และ UVB ยังสามารถเจาะลึกลงสู่ชั้นผิวหนังและทำร้ายเซลล์ผิวให้เสื่อมสภาพ ทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ผิวหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังอีกด้วย การทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้านในตอนเช้าจะช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำ ชะลอการเกิดริ้วรอยและรักษาความยืดหยุ่นของ แล้วยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
**Tips: เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ขึ้นไป และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อการปกป้องผิวจากรังสียูวีแบบจัดเต็ม
หลังจากปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ การบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งและมอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวกายให้ดูกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูขาวใสขึ้น แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพื่อช่วยให้ผิวกระจ่างใสและช่วยให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดีขึ้นด้วย
** Tips: สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย แนะนำให้เลือกไวท์เทนนิ่งที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติสูตรอ่อนโยนต่อผิว และปราศจากสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
นอกจากการบำรุงและปกป้องผิวให้สวยกระจ่างใสจากภายนอก แล้วควรเสริมการบำรุงผิวให้สุขภาพดีจากภายนอก ด้วยการรับประทานผัก-ผลไม้สดที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ สตรอว์เบอร์รี่ กีวี ผักใบเขียว ฯลฯ หรือจะเสริมด้วยการรับประทานอาหารเสริมวิตามินซีก็ได้เช่นกัน นอกจากจะช่วยให้ผิวขาวและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ วิตามินซียังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและช่วยให้คุณมีสุขภาพดีอยู่เสมอ
** Tips: เคล็ดลับในการรับประทานวิตามินซีให้ผิวสวยและเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวกระจ่างใสและผิวแข็งแรง ควรรับประทานปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และควรเป็นวิตามินซีสกัดจากธรรมชาติ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณสำหรับปริมาณวิตามินซีที่เหมาะกับร่างกายจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ด้วยเคล็ดลับการดูแลผิวง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวัน เพียงเท่านี้คุณก็มีผิวสวย สุขภาพดี และผิวกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ