ทำความรู้จัก “ผื่นคัน” พร้อมเคล็ดลับในการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
“ผื่นคัน” อาจจะดูเหมือนเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนละเลย แต่จริงๆ แล้วผื่นคันส่งผลกระทบอย่างมากต่อตัวเรา ทั้งยังสะท้อนปัญหาสุขภาพและสภาวะเครียดอีกด้วย ผื่นคันไม่เพียงส่งผลต่อบุคลิกภาพที่ทำให้คุณดูเป็นคนไม่รักษาความสะอาด แต่การยิ่งเกายิ่งคันยังทำให้เกิดรอยดำที่ทำลายความมั่นใจได้อีกด้วย โพรเทคส์ ชวนคุณบอกลาผื่นคันและมาค้นพบเคล็ดลับการรักษาผื่นคันอย่างถูกวิธีกันดีกว่า
จริง ๆ แล้วผื่นคันเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ การติดเชื้อ ผิวแห้งมาก โรคสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ หรือผื่นแพ้ยา รวมถึงผู้หญิงตั้งครรภ์ก็มีผื่นคันขึ้นตามผิวบริเวณที่แห้งมากได้เช่นกัน นอกจากนี้ การติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา ก็สามารถทำให้เกิดผื่นคันได้เช่นกัน ยิ่งคนที่มีผิวแพ้ง่ายและไวต่อการระคายเคือง เมื่อสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และฝุ่นพิษ PM2.5 ยิ่งทำให้เกิดผื่นคันได้ง่ายขึ้น ถ้าอยากรักษาผื่นคันให้หายขาด คุณต้องเข้าใจก่อนว่า “ผื่นคัน” คืออะไรกันแน่?
“ผื่นคัน” คืออะไร?
ผื่นคัน หรือ “ผื่นแพ้ผิวหนัง” มีลักษณะเป็นผื่นแดง บวม คันขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและใบหน้า บางรายอาจมีอาการผิวแห้งมากและผิวหนังอักเสบร่วมด้วย ผื่นคันส่วนใหญ่จะเกิดจากผิวหนังอักเสบและระคายเคือง เนื่องจากการสัมผัสกับมลภาวะหรือสารเคมีต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ฝุ่น น้ำ เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว น้ำยาซักผ้า สบู่ แชมพู อาหาร แมลง เกสรดอกไม้ หรือปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ส่งผลให้สุขภาพผิวอ่อนแอจึงเกิดอาการแพ้และระคายเคือง ทำให้เกิดผื่นแดงและผื่นคันตามมา
นอกจากนี้ “ผื่นแดงคัน” อาจเกิดจากโรคภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดจากผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ทำให้ผิวแห้ง แดง คัน และมีผื่นขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า คอ ข้อพับแขน ขา และบริเวณที่มีการเสียดสีของเสื้อผ้า บางครั้งอาจจะมีตุ่มน้ำใส ๆ ที่เมื่อเกาจะแตกและมีน้ำเหลืองออกมา บางรายอาจมีลักษณะเป็นแผ่นหนา แข็ง และผิวแห้งเป็นขุยร่วมด้วย โดยผื่นคันพบได้กับคนทุกเพศทุกวัยและมักจะเป็น ๆ หาย ๆ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมก็อาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นกัน
สาเหตุและประเภทของ “ผื่นคัน” ที่คุณควรรู้
ผื่นคันอาจเกิดได้หลายสาเหตุ รวมถึงอาการแพ้ ระคายเคือง โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งมาก อีกทั้งผื่นคันยังเกิดจากความเครียดและภูมิคุ้มกันอ่อนแอ รวมถึงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และสารที่ทำให้ระคายเคืองผิว ผื่นคันที่พบบ่อยมักจะเกิดจาก 6 สาเหตุหลัก ๆ ได้แก่
ผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส: ผื่นชนิดนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และระคายเคือง ไม่ว่าจะผื่นแพ้อากาศ ฝุ่น น้ำ อาหาร สารเคมี เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ผงซักผ้า แมลงสัตว์กัดต่อย ขนสัตว์ หรือเกสรดอกไม้ ฯลฯ โดยผิวหนังจะมีลักษณะบวม แดง มีผื่นคัน และผิวหนังอักเสบ รวมถึงในช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน คนท้อง และผิวแห้งมาก ก็ส่งผลให้ผิวหนังอักเสบจนเกิดผื่นคันได้เช่นกัน
โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis หรือ eczema): โรคที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนังเรื้อรัง ผู้ป่วยจะมีอาการผิวแห้ง แดง และคันมากในเวลากลางคืน มักจะเป็น ๆ หาย ๆ ผื่นประเภทนี้มักจะเกิดในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด มีลักษณะเป็นปื้นแดง คัน หรือมีสะเก็ด
โรคผิวหนัง: ไม่ว่าจะเป็น อีสุกอีใส สะเก็ดเงินที่ทำให้เกิดผื่นในลักษณะเป็นปื้นแดง และตกสะเก็ดบริเวณข้อต่อและหนังศีรษะ หรือ “ลมพิษ” ซึ่งมีลักษณะเป็นผื่นหรือปื้นนูนแดง คัน ไม่มีขุย ลมพิษจะขึ้นกระจายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายหรือใบหน้า มักจะขึ้นไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็จะหายไป แต่บางรายอาจจะมีอาการปวดท้อง แน่นจมูก หายใจติดขัด หรืออาการรุนแรงมากถึงขั้นเสียชีวิตได้
แพ้อาหาร หรือกลูเตน: คนที่มีอาการแพ้อาหารก็มักจะเกิดผื่นคันขึ้นตามร่างกาย โดยเฉพาะแพ้อาหารทะเล แพ้กลูเตนในแป้ง ชีส นม เนย หรือเบเกอรี่ต่าง ๆ
แพ้ยาและยารักษาโรคมะเร็ง: การแพ้ยาปฏิชีวนะหรือยาแก้ปวดบางชนิด รวมถึงผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด การฉายรังสี และการปลูกถ่ายไขกระดูก ก็ส่งผลให้เกิดผื่นคันได้เช่นกัน
โรคทางจิตเวชและระบบประสาท: ผื่นคันยังสะท้อนภาวะความเจ็บป่วยทางจิตใจของคนเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น โรคซึมเศร้า เครียดสะสม ส่งผลให้ผิวแห้งตามแขน ขา ข้อพับ และเกิดผื่นคันตามมา รวมถึงโรคที่เกิดจากอาการทางระบบประสาท เช่น โรคงูสวัด ปลายประสาทอักเสบ เป็นต้น
Note: ผื่นคันอาจแสดงอาการได้หลายอย่าง เช่น ผื่น บวม แดง ตุ่มน้ำ แผลพุพอง ปื้นนูนแดง และตกสะเก็ด ความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดผื่นคัน
6 เคล็ดลับป้องกันและบรรเทาอาการผื่นคันอย่างถูกวิธี
ก่อนจะรักษาผื่นคันให้หายขาดคุณต้องหาสาเหตุของการเกิดผื่นคันให้ถูกต้อง เพื่อค้นพบวิธีการรักษาและบรรเทาอาการผื่นคันได้อย่างเหมาะสม เรามี 5 เคล็ดลับบรรเทาอาการผื่นคันจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมาฝาก
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และระคายเคือง: กรณีที่คุณเป็นผื่นผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมี ฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สบู่ ครีมอาบ้ำ แชมพู ฯลฯ ที่มีส่วนผสมของ “SLS” (Sodium Lauryl Sulfate) ที่ทำให้ผิวระคายเคือง สาร “MIT” (Methylisothiazolinone) ทำให้ผิวอักเสบและเป็นผื่นคัน และ “พาราเบนส์” (Parabens) ที่ทำให้ผิวและฮอร์โมนเสียสมดุล
งดสวมเสื้อผ้ารัดรูป: เสื้อผ้ารัดรูปจะกระตุ้นให้เกิดการเสียดสีต่อผิวหนัง เก็บกักเหงื่อ อับชื้น และมีผื่นคันง่ายขึ้น แนะนำเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย รวมถึงเนื้อผ้าที่ระบายเหงื่อและความอับชื้นได้ดี
หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณผื่นคัน: การเกาหรือถูบริเวณที่มีผื่นคันจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง และทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ทางที่ดีควรทาครีมบำรุงผิวสูตรปราศจากน้ำหอมและอ่อนโยนต่อการระคายเคือง หรือยารักษาผื่นคันตามคำสั่งของแพทย์ผิวหนังจะดีกว่า
ประคบเย็นบริเวณที่เป็นผื่นคัน: การใช้ผ้าเย็นหรือประคบน้ำแข็งในบริเวณที่เป็นผื่นคัน สามารถช่วยบรรเทาอาการคันและลดการอักเสบได้
เลือกครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของ Flaxseed Oil: สบู่หรือ ครีมอาบน้ำที่มีส่วนผสมของ Flaxseed Oil จะช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ขจัดแบคทีเรียเพื่อขจัดต้นตอของกลิ่นกาย พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังอาบน้ำ ทั้งยังไม่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองและทำให้ผิวแพ้ง่าย
บำรุงผิวด้วยครีมเพิ่มความชุ่มชื้น ปราศจากน้ำหอม: ในช่วงที่ผิวอ่อนแอควรเปลี่ยนมาเลือกใช้ครีมบำรุงผิวสูตรอ่อนโยน เพิ่มความชุ่มชื่น ปราศจากน้ำหอม ไม่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง และกรดผลไม้ ที่ทำให้ผิวยิ่งระคายเคืองมากขึ้น
Note: กรณีที่ผื่นคันรุนแรงมากขึ้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง หลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง หรือใช้ยาสเตีรอยด์ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ในบางรายอาจจะต้องใช้ “การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง” โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อค้นหาสาเหตุกระตุ้นการแพ้ได้อย่างตรงจุด
ผื่นคันเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ภูมิแพ้ ผิวแห้งมาก ติดเชื้อ แพ้อาหาร แพ้ยา และโรคผิวหนังบางชนิด อาจมีลักษณะเป็นผื่นคัน รอยแดง ตุ่มใส ตุ่มพอง หรือปื้นนูนแดง การป้องกันผื่นคันที่ดีควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และสารก่อการระคายเคืองต่าง ๆ ทำความสะอาดผิวเป็นประจำด้วยครีมอาบน้ำหรือ “สบู่อาบน้ำ” ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคุณต้องระบุสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดผื่นคันด้วยคำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง เพื่อการรักษาอย่างประสิทธิภาพจึงจะสามารถจัดการและบรรเทาอาการผื่นคันได้ในที่สุด